โปรแกรมที่ต้องใช้
1. Microsoft Office Word 2010 สร้างเอกสารเวิร์ด
2. PDFCreator v1.5.1 จำลองเครื่องพิมพ์สำหรับแปลงเอกสารเป็นไฟล์ PDF
3. 7-PDF Split & Merge v2.0.4 รวมไฟล์ PDF หลายๆ ไฟล์ให้เป็นไฟล์เดียวกัน
ยกเว้น Word 2010 โปรแกรมเดียว ที่เหลืออีก 2 โปรแกรมจะเป็นโปรแกรมฟรี
สามารถหาดาวน์โหลดทางอินเตอร์เน็ตได้เลย
วิธีการทำ ดังนี้
1. Microsoft Office Word 2010 สร้างเอกสารเวิร์ด
2. PDFCreator v1.5.1 จำลองเครื่องพิมพ์สำหรับแปลงเอกสารเป็นไฟล์ PDF
3. 7-PDF Split & Merge v2.0.4 รวมไฟล์ PDF หลายๆ ไฟล์ให้เป็นไฟล์เดียวกัน
ยกเว้น Word 2010 โปรแกรมเดียว ที่เหลืออีก 2 โปรแกรมจะเป็นโปรแกรมฟรี
สามารถหาดาวน์โหลดทางอินเตอร์เน็ตได้เลย
วิธีการทำ ดังนี้
ส่วนที่ 1
การเตรียมเอกสาร
1.
สร้างเอกสารที่ต้องการด้วยเวิร์ดให้เสร็จเรียบร้อย ดูว่ามีจำนวนหน้าทั้งหมดกี่หน้า
(ในที่นี้ได้ 21 หน้า)
(ในที่นี้ได้ 21 หน้า)
2. ให้นำจำนวนหน้าหารด้วย 4 ( ในที่นี้นำ 21 หารด้วย 4) ถ้าหารไม่ลงตัว
ต้องเพิ่มหน้าขึ้นเพื่อให้หารลงตัวโดยคลิกที่แท็บ
“เค้าโครงหน้ากระดาษ” --> “ตัวแบ่ง” --> ตัวแบ่งส่วน “หน้าถัดไป”
ต้องเพิ่มหน้าขึ้นเพื่อให้หารลงตัวโดยคลิกที่แท็บ
“เค้าโครงหน้ากระดาษ” --> “ตัวแบ่ง” --> ตัวแบ่งส่วน “หน้าถัดไป”
3. จะได้หน้ากระดาษเพิ่มมาใหม่อีกหนึ่งหน้า ให้ดับเบิลคลิกที่ส่วนหัวของกระดาษใหม่
เพื่อเปิดเมนู “หัวกระดาษ/ท้ายกระดาษ”
4. จะแสดงแท็บ เครื่องมือหัวกระดาษและท้ายกระดาษ “ออกแบบ” ขึ้นมา ให้สังเกตว่า
มีเมนู “เชื่อมโยงไปก่อนหน้า” ที่เป็นแถบสีส้มอยู่ ให้คลิกเอาแถบสีส้มออก
5. ตอนนี้เมนู “เชื่อมโยงไปก่อนหน้า”
จะไม่มีแถบสีส้มแล้ว ให้ดับเบิลคลิก
ที่บริเวณกระดาษเพื่อปิด หัวกระดาษ/ท้ายกระดาษ
6. หัวกระดาษ/ท้ายกระดาษ จะปิดลง
และมีแถบเคอร์เซอร์กระพริบอยู่ ให้คลิกที่บริเวณกระดาษเพื่อปิด หัวกระดาษ/ท้ายกระดาษ
เพื่อนำเคอร์เซอร์มาไว้ที่หน้าบน (ในที่นี้คือหน้า 21)
7. ตอนนี้ต้องการแทรกหมายเลขหน้า ก็คลิกที่แท็บ “แทรก”
8. คลิกที่ “หมายเลขหน้า” --> “ด้านล่างของหน้า” --> (เลือกรูปแบบตามต้องการ)
9. จะเห็นว่าในส่วนที่ 1 จะมีหมายเลขหน้าแสดงขึ้นมา แต่ส่วนที่ 2 จะไม่แสดง
หมายเลขหน้า ให้ดับเบิลคลิกที่บริเวณหน้ากระดาษ เพื่อปิด หัวกระดาษ/ท้ายกระดาษ
ลงไปก่อน แล้วนำเมาส์ไปไว้ที่หน้าสุดท้าย (หน้า 22)
ขณะนี้เอกสารจะมีทั้งหมด 22 หน้า ให้กดปุ่ม Ctrl + Enter ที่คีย์บอร์ด
เพื่อเพิ่มหน้าใหม่ให้ครบ 24 หน้า (เพื่อให้หารด้วย 4 ลงตัว)
ส่วนที่ 2 การสั่งพิมพ์เป็นไฟล์
PDF
10. ให้นำเลขหน้ามาเขียนลงในกระดาษเรียงตามลูกศร ดังตัวอย่าง
ตรงอักษรสีฟ้า ให้นำมาเขียนสลับกันใหม่ จะได้ดังในวงกลมหมายเลข 2 (สังเกตตรงอักษรสีแดง)
ให้นำข้อมูลในวงกลมหมายเลข 2 นี้ไปสั่งพิมพ์
11. นำข้อมูลในวงกลมหมายเลข 2 จากข้อ 10 มาสั่งพิมพ์โดย
- เลือกเครื่องพิมพ์เป็น PDFCreator
- พิมพ์เลขหน้าที่ต้องการพิมพ์ครั้งละคู่ (เริ่มจาก 24,1)
- ด้านล่างสุด เลือกเป็น “2 หน้าต่อกระดาษ”
- คลิกปุ่ม “พิมพ์”
12. จะแสดงหน้าต่าง PDFCreator ขึ้นมา คลิกปุ่ม “Save” ได้เลย
13. เลือกโฟลเดอร์ที่ต้องการเก็บไฟล์ --> พิมพ์เลขลำดับไว้ด้านหน้าชื่อไฟล์ -->
คลิกปุ่ม “บันทึก”
14. ทำซ้ำข้อ 11 – 13 จนครบทั้งหมด 12 คู่ ก็จะได้ไฟล์ทั้งหมด 12 ไฟล์ ดังภาพ
15 ความคิดเห็น:
ขอบคุณค่ะ มีประโยชน์มากๆเลยค่ะ
ขอบคุณมากครับ ช่วยผมได้เร้วขึ้นเยอะเลย
แล้วจะทำให้ปริ้นเป็น หน้าหลัง ยังไงหรอค่ะ
ทำให้เป็น PDF ยังไงค่ะ บอกหน่อยT^T
เป็นประโยชน์มากเลย ค่ะ ขอบคุณคะ
ขอบคุณมากครับที่ให้ความรู้
แต่จากนี้ผมต่อยอดได้ว่า
ให้พิมพ์เป็น PDF เลย โดยการพิมพ์เรียงหน้าธรรมดา
แล้วไปพิมพ์ให้เป็นเล่มโดยผ่าน PDF แล้วให้เลือก "Booklet" (ถ้าเครื่องปริ้นรุ่นใหญ่ ๆ ที่พิมพ์ 2 หน้าได้) ให้เลือกที่ "2-sided(book)" ครับ
สงสัย 081-5622119
ทำไมตอนทำเป็น output คือมีไฟล์ที่ทำเป็นPDFแล้ว16ไฟล์ แล้วจะทำ output โปรแกรมโต้มาว่า สามารถทำได้เพียง5ไฟล์ แบบนี้ แล้วจะเป็นอะไรยังไงมั้ยคะ??
เป็นส่วนของความรู้การพิมพ์หนังสือที่น่าสนใจมากครับ
พิมพ์แบบ 2 หน้า ของกระดาษ ต้องอยู่ที่เครื่องพิมพ์ครับ ว่ารองรับการพิมพ์ 2 หน้าหรือไม่ ถ้าเครื่องพิมพ์ไม่รองรับ ก็ต้องกลับกะดาษเอาเอง
การทำเป็นไฟล์ PDF ต้องลงโปรแกรมเครื่องพิมพ์เสมือน เพิ่มเข้าไปครับ หาเอาในเน็ต ชื่อโปรแกรม PDFCreator เป็นฟรีแวร์
เมื่อลงโปรแกรมแล้ว จะมีเครื่องพิมพ์เพิ่มมาให้เลือกตอนสั่งพิมพ์
แต่ถ้าใช้ Microsoft Office 2013 สามารถบันทึกเป็นไฟล์ PDF ได้เลย
ตอบช้ามาก... แต่ก็ขอตอบไว้ เผื่อใครเข้ามาดูทีหลัง จะได้รับรู้ข้อมูลเพิ่มเติม ครับผม
ขอบคุณมากค่ะ ช่วยให้ทำหนังสือไปแจกงานอาสาสมัครได้ทันเวลาพอดีเลยค่ะ^^
ตามทฤษฎีมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ลองทำงานจริงๆ ดูครับ ก็จะรู้ว่า มันไม่ใช่ซ่ะทีเดียว
แสดงความคิดเห็น