จริงๆ แล้วผู้เขียนได้รับมาทั้งหมด ๓ ฉบับ ฉบับนี้เป็นฉบับที่ ๓
- ฉบับแรก อ่านแล้วก็สรุปเขียนเป็นบทความไว้อีกบล็อกหนึ่ง (ตอนนี้บล็อกถูกปิดไปแล้ว)
- ฉบับที่สอง หายไปแล้ว
- ฉบับนี้ ขี้เกียจเขียนแล้ว ก็เลยสแกนและอัปโหลดไว้ให้ที่เว็บไซต์ฝากไฟล์ เผื่อใครที่ยังไม่เคยอ่านแล้วสนใจอยากอ่าน ถ้าสนใจลองดาวน์โหลดไปอ่านดูนะครับ ตามลิงก์นี้ครับ
http://www.mediafire.com/?i9iydgrqkvogfjs
ส่วนวิธีดาวน์โหลด ก็ตามนี้ครับ
1.คัดลอกลิงก์ไปวางในบราวเซอร์ แล้วกดปุ่ม Enter
2. คลิกที่ปุ่ม "Download"
3.รอสักครู่ จะเริ่มดาวน์โหลดอัตโนมัติ
วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555
วันเสาร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2555
การกู้ข้อมูลด้วยโปรแกรม Partition Recovery v3.0
โปรแกรม Partition Recovery v3.0 เป็นโปรแกรมที่ใช้กู้คืนพาร์ทิชันที่ถูกฟอร์แมต หรือกู้คืนข้อมูลที่ถูกลบโดยไม่ตั้งใจ(โปรแกรมนี้เป็น
Shareware) ลองมาดูวิธีใช้งานกัน
จากตัวอย่าง(คอมพิวเตอร์ที่ใช้เป็น Windows 7)
เมื่อนำแฟรชไดร์ที่ติดไวรัสมาเสียบที่คอมพิวเตอร์ จะขึ้นข้อความให้ฟอร์แมต แสดงว่าไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้
ให้คลิกปุ่ม “ยกเลิก” เพื่อออกจากหน้าต่างนี้
1. ให้เปิดโปรแกรม Partition Recovery v3.0 ขึ้นมา
2. จะแสดงหน้าต่าง “Disk Recovery Wizard” ขึ้นมาดังภาพด้านล่าง
ให้คลิกปุ่ม “Cancel”
เพื่อปิดหน้าต่างลงไป เพราะถ้าคลิกปุ่ม “Next” จะเป็นการสแกนพาร์ทิชัน ซึ่งจะใช้เวลานานมาก
แต่เราไม่ต้องการสแกนพาร์ทิชัน แต่ต้องการจะกู้ข้อมูลเท่านั้น
เพื่อปิดหน้าต่างลงไป เพราะถ้าคลิกปุ่ม “Next” จะเป็นการสแกนพาร์ทิชัน ซึ่งจะใช้เวลานานมาก
แต่เราไม่ต้องการสแกนพาร์ทิชัน แต่ต้องการจะกู้ข้อมูลเท่านั้น
3. จากข้อ 2 เมื่อคลิกปุ่ม “Cancel” แล้ว ก็จะแสดงกรอบขึ้นมาถามยืนยันอีกครั้ง ให้คลิกปุ่ม “Yes”
4. เมื่อปิดหน้าต่างวิซาร์ดแล้ว คลิกปุ่ม “Search” เพื่อเริ่มค้นหาไฟล์ข้อมูลที่สูญหาย
5. คลิกเลือกไดร์หรือพาร์ทิชันที่ต้องการกู้ข้อมูล แล้วคลิกปุ่ม “Search”
6. เลือกระบบไฟล์ให้ถูกต้อง ซึ่งโดยปกติถ้าเป็นแฟรชไดร์ฟก็จะมีระบบไฟล์เป็น FAT32
เสร็จแล้ว
ก็คลิกปุ่ม “Next>”
ก็คลิกปุ่ม “Next>”
7. โปรแกรมก็จะเริ่มดำเนินการสแกนหาไฟล์และโฟลเดอร์จากไดร์ที่เลือกไว้
ซึ่งจะเร็วหรือช้า
ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของไดร์ที่ต้องการค้นหาข้อมูล
ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของไดร์ที่ต้องการค้นหาข้อมูล
8. เมื่อสแกนเสร็จ ก็จะทำการสร้างรายการข้อมูลที่ค้นหามาได้ ให้รอสักครู่
9. เมื่อแสดงหน้าต่างนี้ขึ้นมา ก็ให้คลิกปุ่ม “Finish” เพื่อปิดหน้าต่างลงไป
10. ที่หน้าต่างหลักของโปรแกรม จะแสดงรายการไฟล์และโฟลเดอร์ที่โปรแกรมสแกนพบ
(รายการไฟล์และโฟลเดอร์ที่มีกากบาทสีแดงจะเป็นข้อมูลที่กู้คืนไม่ได้หรือได้แต่ไม่สมบูรณ์)
ให้เลือกรายการไฟล์และโฟลเดอร์ที่ต้องการกู้คืน แล้วคลิกที่ปุ่ม “Recover”
11. ให้คลิกเลือกว่าต้องการกู้คืนข้อมูลแบบใด ในที่นี้เลือกเป็น “Save
Files” แล้วคลิกปุ่ม “Next>”
12. คลิกปุ่ม “Browse…” เพื่อเลือกสถานที่เก็บไฟล์
แล้วคลิกปุ่ม “Next” เพื่อไปที่ขั้นตอนถัดไป
13. จะมาที่หน้าต่างแสดงรายชื่อไฟล์และโฟลเดอร์ที่ต้องการกู้คืน
ในขั้นตอนนี้สามารถคลิกที่สี่เหลี่ยมหน้าไฟล์และโฟลเดอร์เพื่อ “เลือก/ไม่เลือก”
ข้อมูลที่ต้องการกู้คืน เมื่อพอใจแล้วก็คลิกปุ่ม “Next”
14. กำลังดำเนินการกู้คืนไฟล์ รอสักครู่...
15. เมื่อกู้คืนข้อมูลสำเร็จ จะแสดงหน้าต่างนี้ขึ้นมา ก็ให้คลิกปุ่ม “Finish”
เพื่อปิดหน้าต่างนี้
และปิดโปรแกรม
เมื่อกู้คืนข้อมูลกลับมาได้แล้ว
ก็สามารถนำแฟรชไดร์ไปฟอร์แมต เพื่อนำกลับมาใช้เก็บข้อมูลต่อไป
*** สามารถดาวน์โหลดไฟล์บทความได้จาก https://skydrive.live.com/redir.aspx?cid=fa1d1986257f3b16&resid=FA1D1986257F3B16!128&parid=FA1D1986257F3B16!119
*** สามารถดาวน์โหลดไฟล์บทความได้จาก https://skydrive.live.com/redir.aspx?cid=fa1d1986257f3b16&resid=FA1D1986257F3B16!128&parid=FA1D1986257F3B16!119
วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2555
ตั้งค่าให้ เปิด-ปิดคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว
โดยปกติการเปิด หรือ
ปิดคอมพิวเตอร์จะใช้เวลาค่อนข้างจะนานถึงนานมาก จนบางครั้งเวลาที่มีงานเร่งด่วน
ก็มักจะรู้สึกว่าไม่ค่อยจะทันใจ มาลองตั้งค่าให้ใช้คอมพิวเตอร์(โน้ตบุ๊ค)
ให้สามารถเปิด-ปิดเครื่องได้อย่างรวดเร็วทันใจ (สามารถเปิด-ปิดเครื่องโดยใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที ยิ่งเครื่องแรง
จะยิ่งเร็วขึ้นอีก)
มาลองดูวิธีตั้งค่ากันดีกว่า (ในตัวอย่างนี้เป็น Windows 7 นะครับ)
1. ที่ไอคอน “คอมพิวเตอร์” คลิกขวา --> คลิกที่ “คุณสมบัติ”
มาลองดูวิธีตั้งค่ากันดีกว่า (ในตัวอย่างนี้เป็น Windows 7 นะครับ)
1. ที่ไอคอน “คอมพิวเตอร์” คลิกขวา --> คลิกที่ “คุณสมบัติ”
2. คลิกที่ “หน้าแรกแผงควบคุม”
3. คลิกที่
“ระบบและความปลอดภัย”
4. ที่กลุ่ม
“ตัวเลือกการใช้พลังงาน” คลิกที่ “เปลี่ยนแปลงการทำงานของปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง”
5. เลือกการทำงานของแต่ละปุ่มตามต้องการ
6.
เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้ว ที่มุมล่างด้านขวาของหน้าต่าง ก็คลิกที่ปุ่ม
“บันทึกการเปลี่ยนแปลง”
เสร็จแล้วครับคราวนี้ก็สามารถใช้งานฟังก์ชันไฮเบอร์เนตได้แล้ว
ถ้าคุณตั้งค่าตามตัวอย่าง
(ข้อ 5) ก็กดปุ่ม Fn + F4 เพื่อปิดเครื่องได้แล้ว
*** หมายเหตุเพิ่มเติม เอาแบบคร่าวๆ นะครับ รายละเอียดอื่นๆ รบกวนหาดูใน Google ครับ
Sleep (สลิป) --> บันทึกการทำงานปัจจุบันลงในพื้นที่ชั่วคราว
แต่ยังไม่ตัดกระแสไฟ (ฮาร์ดดิสก์ยังทำงานอยู่ จึงพร้อมทำงานได้เร็ว)
สังเกตว่าไฟปุ่มเพาเวอร์ยังกระพริบสีส้มอยู่
(จะ เปิด-ปิดเครื่องได้เร็วกว่าโหมดไฮเบอร์เนต แต่ไม่แนะนำ)
Hibernate (ไฮเบอร์เนต) --> บันทึกการทำงานปัจจุบันลงฮาร์ดดิสก์
และตัดกระแสไฟด้วย คล้ายๆ ปิดเครื่อง
(จะเปิด-ปิดเครื่องช้ากว่าโหมดสลิปนิดหน่อย แนะนำให้ใช้โหมดนี้)
(ข้อ 5) ก็กดปุ่ม Fn + F4 เพื่อปิดเครื่องได้แล้ว
*** หมายเหตุเพิ่มเติม เอาแบบคร่าวๆ นะครับ รายละเอียดอื่นๆ รบกวนหาดูใน Google ครับ
Sleep (สลิป) --> บันทึกการทำงานปัจจุบันลงในพื้นที่ชั่วคราว
แต่ยังไม่ตัดกระแสไฟ (ฮาร์ดดิสก์ยังทำงานอยู่ จึงพร้อมทำงานได้เร็ว)
สังเกตว่าไฟปุ่มเพาเวอร์ยังกระพริบสีส้มอยู่
(จะ เปิด-ปิดเครื่องได้เร็วกว่าโหมดไฮเบอร์เนต แต่ไม่แนะนำ)
Hibernate (ไฮเบอร์เนต) --> บันทึกการทำงานปัจจุบันลงฮาร์ดดิสก์
และตัดกระแสไฟด้วย คล้ายๆ ปิดเครื่อง
(จะเปิด-ปิดเครื่องช้ากว่าโหมดสลิปนิดหน่อย แนะนำให้ใช้โหมดนี้)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
การต่อหลอดไฟกับสวิตช์โยก 6 ขา เลือกให้ใช้ไฟจากแผง Solar Cell หรือ Battery
ข้อมูลการใช้งาน - มีแผงโซลาร์เซล 2 แผง - แผงที่ 1 ขนาด 12-18 โวลต์ 30 วัตต์ขึ้นไป ต่อตรงกับหลอดไฟ เพื่อใช้ไฟในเวล...
-
*** ตัวอย่างจาก Windows 10 1. คลิกที่รูปแว่นขยาย 2. ที่ช่องค้นหา พิมพ์ "run" และคลิกเลือก Run 3. พิมพ์ win...
-
Epson Adjustment Programs & Resetter Tool (แก้ไขซับหมึกเต็ม Epson L360) คอมพิวเตอร์แสดงข้อความแจ้งเตือน “A printer’s ink pa...
-
*** ทำให้เพื่อนดู เลยขอเก็บไว้ตรงนี้ด้วยเลย (บันทึกช่วยจำ) ตัวอย่างจาก MS Word 2016 --> ต้องการพิมพ์ข้อความปกติ แล้วแทรกกล่องข้อความ ...